วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

New CBR1000RR 2012

CBR1000RR ปี 2012



CBR1000RR ปี 2012 นี้ต่างจากตัว 2010 โดยที่เห็นได้ชัดคือ ชุดแฟริ่ง ไฟหน้า แม็ก ที่เปลี่ยนใหม่ได้อย่างสวยงาม ส่วนตัวเครื่องยังคงเป็นแบบเดิม ด้วยเครื่อง 4 สูบ 1000cc ความเร็วรอบสูง ประหยัดน้ำมันด้วระบบหัวฉีด ความเร็วสูงสุด ประมาณ 300 km/ชม. ตัวนี้ไม่มีขายในไทยอีกเช่นเคย ราคาประมาณ 800000 บาท
  ถ้าเทียบ Bigbike 1000cc กับค่ายอื่นๆ CBR ถือว่าเป็นรถที่ขับง่ายกว่า ด้วยท่าทางการนั่งที่เหมาะกับสรีระ ทำให้มีความคล่องตัวสูง ใครที่รักความเป็นที่สุดของ Bigbike CBR1000RR น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด




New CBR 600RRหัวฉีด

CBR600RR 2012

  เนื่องจากปัจจุบัน HONDA ผลิตรถ Bigbike 4 สูบ ในระดับ 600cc ขึ้นไป (150 และ 250 ไม่ถือว่าเป็น Bigbike) ตัวนี้จึงเป็น Bigbike ตัวล่าสุดที่ทาง Honda ผลิต ออกมา ยังไม่ได้มีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนอะไรมากนักจากตัวปัจจุบัน มีความสวยงามเพิ่มขึ้น
   จากประสบการณ์ที่เคยลองขับ CBR600 ตัวก่อน พบว่าความเร็วรอบต่างจาก CBR400 โดยสิ้นเชิง แรงกว่าเห็นๆครับ เรียกว่าออกตัวแทบหงายเลยทีเดียว ประหยัดน้ำมันแทบจะไม่ต่างกับตัว400 เพราะเป็นหัวฉีด เครื่องไม่ร้อนเร็ว ใครได้ลองขับ ติดใจทุกคนครับ
   ยังไม่ได้รับการเปิดเผยรายละเอียดออกมามากนัก สำหรับตัวนี้ เเต่จากที่มันเป็นรถที่ดีเเละสนองมือได้อยู่เเล้วสำหรับ CBR 600 ในเวอร์ชั่นนี้ก็ยังคงความสปอร์ตชั้นยอดได้ดีเช่นเคย ความเร็วสูงสุด ประมาณ 280-290 km/ชม. ถ้ารักความเร็ว ชอบความเป็นนักแข่ง ราคาโดยประมาณน่าจะไม่แตกต่างกับตัวก่อนซักเท่า คือประมาณ 600000-700000 บาท ไม่มีขายในไทยต้องสั่งจากต่างประเทศเท่านั้น (เท่ารถยนต์เลยนะเนี๊ย) ใครชื่นชอบจริงๆ ก็คว้าเอามาไว้ซักคัน รับรองไม่มีผิดหวังครับ

CBR 400 RR

CBR400RR


เลิกผลิตตั้งแต่ปี ค.ส. 1993 (รูปบน)ไม่มีขายในไทย เป็นรถ Bigbike ที่ปัจจุบันนิยมใช้ในหมู่ ผู้เริ่มขับ Bigbike เนื่องจากราคาถูก(มือสอง) และเครื่อง 4 สูบ 400cc สามารถเรียกแรงม้าได้ดี เสียงดุดัน สไตร์ Bigbike นิยมนำมาดัดแปลงสภาพใหม่ (รูปล่าง) เพื่อให้ดูสวยงาม ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 km/ชม. เลยทีเดียว

ข้อดี  ความเร็วรอบสูง 0-100 ภายในไม่ถึง 4 วินาที ท่านั่งหมอบเท่สไต Bigbike เสียงดุดัน ความเร็วสูงสุดถึง 240 km/ชม. ระบบเบลคดี ยางใหญ่เข้าโค้งได้ดี ราคาถูก

ข้อเสีย กินน้ำมันมากเนื่องจากเทคโนโลยีในยุค 93 ยังไม่ดี รถอายุมากทำให้อุปกรณ์บางส่วนเสีย ต้องคอยเปลี่ยนบ่อย อะไหล่หายาก น้ำหนักรถเยอะ ท่านั่งถ้านั่งนานๆอาจเมื่อยล้า เบาะคนซ้อนสูง ความร้อนสูง ต้องคอยเติมน้ำยาหล่อเย็นอยู่บ่อย ไม่มีเข็มบอกระดับน้ำมัน

ใครที่คิดจะเล่นรถนี้ ก็ต้องทำใจกับสิ่งที่ตามมา เช่น ค่าน้ำมัน ค่าซ่อม คงต้องต้องคิดหนักกันหน่อยว่าจะดีคุ้มกับที่เสียรึป่าว ราคารถมีตั้งแต่ 50000-150000 บาท แล้วแต่สภาพ

New CBR 250i

CBR 250i


    ออกมาพร้อมกับตัว 150i ในปี 2010 เครื่อง 250cc ลักษณะคล้ายกับตัว 150i ตัวความเป็นจริง ถ้าได้ลองขับ จะรู้ว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง อุปกรณ์ ทุกอย่างจะใหญ่กว่าตัว 150i เช่น แม็ก ยาง ท่อ โครงรถ โช็ค หน้า-หลัง จานดิสเบลค เป็นต้น
    จากที่เคยทดลองขับ ความเร็วต้นและปลายทำได้ดีกว่าตัว 150i มาก ตัวรถหนักกว่าเล็กน้อย เสียงท่อดังกว่าเล็กน้อย ขับด้วยความเร็วสูง จะนิ่งกว่า เข้าโค้งนิ่งกว่า การเบลคดีกว่าเพราะมีระบบ ABS ความเร็วสูงสุดเท่าที่เคยทำได้ประมาณ 180 km/ชม. ประหยัดน้ำมันสูง เครื่องไม่ร้อน
   ราคาอยู่ที่ 120000 บาท ค่อนข้างสูง แต่ก็สมราคา ยังไม่เรียกว่าเป็นรถ Bigbike เพราะ จำนวนสูบ 1 สูบ และเครื่องยังคงเป็นแค่ 250cc
   เหมาะสำหรับคนที่ชอบสปอร์ตแบบขับสะบาย ขับทางไกลได้ดีเยี่ยม

New CBR 150i

CBR 150i


       CBR150i ตัวนี้ออกมาในปี 2010 มีความสวยงามมากขึ้น จากปีก่อนๆ ตัวถังใหญ่ขึ้น ใส่น้ำมันได้มากขึ้น หน้าปัดเป็นแบบ LCD บอกจำนวนน้ำมัน รอบเครื่องยนต์ เวลา ความเร็ว ความร้อน มีประโยชน์มาก แต่ผลเสียคือ ถ้าเสียก็จะไม่สามารถเห็นอะไรได้เลย ตัวนี้ใช้หัวฉีดซึ่งประหยัดน้ำมันสูง
       จากประสบการณ์ที่เคยได้ลองขับ ความเร็วต้นถือว่าทำได้ดี แต่ช่วง เกียร์ 5-6 เร่งไม่ขึ้น แต่ก็เป็นธรรมดาของเครื่อง 150cc ซึ่งมีสูบเดียว ประหยัดน้ำมันสูง เครื่องไม่ร้อน เสียงเงียบมาก ท่านั่งถือว่าสะบายไม่ปวดหลัง เบาะคนซ้อนไม่สูงจนเกินไป น้ำหนักรถเบามาก ทำให้เมื่อใช้ความเร็วสูงๆ รถจะเกิดอาการสบัดจากการปะทะของลม การเข้าโค้งดีในความเร็วไม่สูงมาก ระบบเบลคยังไม่ดีโดยเฉพาะช่วงหน้า เบลคแรงไป อาจล้มได้ เพราะมีดิสเบลคข้างเดียวต่างจากรถ Bigbike ซึ่งมี 2 ข้าง ทำให้สบัด
ความเร็วสูงสุดเท่าที่เคยทำได้ คือ 156 km/ชม. ถือว่าดีทีเดียวสำหรับเครื่อง 150cc
       โดยรวมถือว่าเป็นรถที่ดี เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นสปอร์ต คล่องตัว แต่ถ้าหวังว่าจะได้ความแรงเหมือนรถ Bigbike คงไม่ใช่ เพราะเครื่องแค่ 150cc สูบเดียว ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความแรงและเป็นสปอร์ตเต็มตัว ราคา ณ ตอนนี้ ประมาณ 78000-82000 บาท ถือว่าไม่แพงเลยทีเดียว